“ปาร์คพลัส” แตกไลน์ธุรกิจพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่จอดรถอัจฉริยะ “p2go” เอาใจคนเมือง ปีหน้าเท 400 ล้าน เพิ่มอีกพันช่องจอด คาดรายได้โตเท่าตัว ประกาศปรับแผนธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีวี แบรนด์ “แรตเทิ้ล” หลังขนส่งไม่รับจดทะเบียน เดินหน้าขายแบบเช่าซื้อให้คอนโดฯ หมู่บ้าน
นายอภิราม สีตกะลิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาร์คพลัส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องจอดรถอัตโนมัติ และในฐานะผู้ให้บริการที่จอดรถโมเดลใหม่ภายใต้แบรนด์ปาร์คทูโก (Park 2 Go) เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาระบบและแตกไลน์ธุรกิจการจัดการที่จอดรถอัจฉริยะกับแอปพลิเคชั่น “p2go” จองก่อนจอด ให้บริการจองที่จอดรถผ่านมือถือเป็นครั้งแรกในไทย และมีแผนที่จะลงทุนราว 300-400 ล้านบาท
เป็นการลงทุนต่อเนื่อง หลังจากได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นและระบบต่าง ๆ และเริ่มเปิดทดลองให้บริการจองที่จอดรถกับลูกค้ามาเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยใช้งบประมาณในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นถึง 5 ล้านบาท และลงทุนสร้างพื้นที่จอดรถอัจฉริยะอีก 8 ล้านบาท ในซอยประมวลย่านสีลม ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มีพื้นที่จอดรถขนาด 70 ช่องจอด มีรถเข้ามาใช้บริการประมาณ 280 คันต่อวัน และจะเปิดตัวแอปพลิเคชั่น ดังกล่าวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป พร้อมให้บริการจองที่จอดรถผ่านมือถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ส่วนความคืบหน้าธุรกิจการนำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ “แรตเทิ้ล” ภายใต้ชื่อบริษัท ซิลิคอนมอเตอร์ส จำกัด ที่ปัจจุบันยังติดขัดปัญหาเรื่องการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ทำให้เกิดความล่าช้าของธุรกิจดังกล่าว แต่ในปีหน้าบริษัทจะปรับแผนธุรกิจเป็นให้เช่าซื้อแทน
โดยขณะนี้มีกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโดฯ หมู่บ้านจัดสรร ให้ความสนใจติดต่อเข้ามาเพื่อนำไปให้บริการกับลูกบ้านเป็นจำนวนมาก ในลักษณะของการใช้งานแบบไดรฟ์ทูแชร์ ภายในงานมหกรรมยานยนต์จะมีการนำรถแรตเทิ้ลมาจัดแสดง 2 รุ่น คือรุ่นเริ่มต้นราคา 600,000 บาท และรุ่นท็อปราคา 850,000 บาท โดยคาดว่าจะมีการนำเข้ามาทำตลาดจำนวน 10 คันในปีหน้า
ด้านนางสาววานิตา ศรีเฟื่องฟุ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาร์คทูโก จำกัด เปิดเผยว่า ปีหน้ามีแผนขยายเพิ่มพื้นที่จอดรถอัจฉริยะอีก 1,000 ช่องจอด เข้าไปยังแหล่งคอมมิวนิตี้มอลล์ในเครือของเอสเอฟ, ลาวิลล่า, เจ อเวนิว
ห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลและเดอะมอลล์ รวมทั้งมองหาพื้นที่อื่นเพิ่มเติม และจะมีบริการจุดชาร์จเจอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทลงทุนติดตั้งอย่างน้อยพื้นที่ละ 2-3 จุด และ 1 จุดนั้นใช้งบประมาณกว่า 200,000 บาท
สำหรับผู้สนใจใช้บริการแค่เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “p2go” ผ่าน App Store ในระบบปฏิบัติการ iOS โดยในส่วนของ Play Store ระบบปฏิบัติการ Android จะเปิดให้ใช้งานได้ในปีหน้า 2561 โดยลูกค้าสามารถจองที่จอดรถก่อนจอด ด้วยการค้นหาทำเลที่จอดรถที่ต้องการ, เช็กข้อมูลเบื้องต้นของที่จอดรถได้ อาทิ ราคา, เวลาเปิดทำการ, ที่จอดเต็มหรือไม่ เป็นต้น โดยผู้รับบริการสามารถดำเนินการผ่านโทรศัพท์มือถือ และชำระเงินหักจากบัญชีบัตรเครดิตหรือเดบิตที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่นได้ทันที
ด้านนางสาวกุลยา สุวรรณเฮือน กรรมการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มกว่าเท่าตัว จากปีนี้่ที่ 100 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากลานจอดคิดเป็น 90% และแอปพลิเคชั่น 10% และในปี 2561 จะขยับเป็นลานจอด 70% และแอปพลิเคชั่น 30%
รายได้ของปาร์คทูโกที่มาจากแอปพลิเคชั่นในปีนี้น่าจะเริ่มเป็นบวกและปีหน้าเชื่อว่าจะสามารถเบรกอีเวนต์ น่าจะโตเท่าตัว มีรายได้กว่า 20 ล้านบาท
ส่วนปาร์คพลัสซึ่งเป็นบริษัทแม่ของปาร์คทูโก คาดว่าปีนี้รายได้เกือบ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้ารายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีลูกค้าในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวสารจาก Prachachat https://www.prachachat.net/motoring/news-79088